ไวอากร้ากับแอลกอฮอล์: ดื่มได้ไหม มีผลกระทบอย่างไร?

ไวอากร้า (Viagra) หรือยา ซิลเดนาฟิล (Sildenafil) เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะยาช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชายวัยทำงานที่เริ่มมีปัญหาหย่อนสมรรถภาพ หรืออ่อนตัวไม่เต็มที่ในเวลาสำคัญ แต่คำถามที่ผู้ชายหลายคนยังสงสัยคือ “สามารถดื่มแอลกอฮอล์ขณะใช้ไวอากร้าได้หรือไม่?” คำถามนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะทั้งไวอากร้าและแอลกอฮอล์ล้วนมีผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจอย่างละเอียดว่า การใช้ไวอากร้าควบคู่กับแอลกอฮอล์มีผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร และจะใช้ยาอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด


ทำความรู้จักกับ “ไวอากร้า” และ “แอลกอฮอล์”

ไวอากร้า (Viagra)
เป็นยาที่มีสารออกฤทธิ์ชื่อ Sildenafil Citrate ใช้สำหรับรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย โดยช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศ ทำให้เกิดการแข็งตัวได้ดีขึ้นเมื่อมีสิ่งกระตุ้นทางเพศ โดยจะออกฤทธิ์ประมาณ 30-60 นาทีหลังรับประทาน และมีฤทธิ์อยู่ในร่างกายได้นานราว 4-6 ชั่วโมง

แอลกอฮอล์ (Alcohol)
เครื่องดื่มประเภทนี้มีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความกังวล และเพิ่มความกล้าในสถานการณ์ทางสังคม แต่หากดื่มในปริมาณมาก แอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตลดต่ำลง หรือแม้แต่หย่อนสมรรถภาพทางเพศแบบชั่วคราวได้


ไวอากร้ากับแอลกอฮอล์: ดื่มร่วมกันได้หรือไม่?

คำตอบคือ สามารถดื่มได้ในปริมาณจำกัด แต่ควรระมัดระวัง เพราะการใช้ไวอากร้าร่วมกับแอลกอฮอล์ในปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงและลดประสิทธิภาพของยา

✅ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณเล็กน้อย

  • เครื่องดื่ม 1-2 แก้ว เช่น ไวน์แดงหรือเบียร์ อาจไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง

  • อาจช่วยลดความวิตกกังวล และเพิ่มความกล้าในการมีเพศสัมพันธ์

  • อย่างไรก็ตาม ควรเว้นระยะห่าง 1-2 ชั่วโมงระหว่างการดื่มกับการใช้ยา

❌ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก

  • ทำให้ หลอดเลือดขยายตัวเกินควร ซึ่งซ้ำซ้อนกับฤทธิ์ของไวอากร้า

  • ส่งผลให้ ความดันโลหิตลดลงอย่างเฉียบพลัน อาจทำให้เกิดอาการเวียนหัว หน้ามืด หรือหมดสติ

  • ลดประสิทธิภาพของยาไวอากร้า ทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัวแม้ใช้ยาแล้ว

  • เพิ่มความเสี่ยงต่อ อาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรืออาการแพ้ยา


คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ไวอากร้าร่วมกับแอลกอฮอล์

  1. เลือกดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณน้อย
    เช่น เบียร์ไม่เกิน 1 กระป๋อง หรือไวน์ไม่เกิน 1 แก้ว

  2. เว้นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
    ระหว่างการดื่มแอลกอฮอล์กับการใช้ไวอากร้า เพื่อให้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ลดลงก่อน

  3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แรง
    เช่น วิสกี้ รัม หรือวอดก้า เพราะส่งผลต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง

  4. ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ
    เพื่อช่วยลดภาวะขาดน้ำซึ่งอาจทำให้ความดันตกได้ง่าย

  5. หากมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตหรือโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
    เพราะไวอากร้าและแอลกอฮอล์ล้วนมีผลต่อระบบหลอดเลือด


ความเข้าใจผิดที่ควรเลี่ยง

  • “ดื่มแล้วจะช่วยกระตุ้นอารมณ์และเพิ่มพลังทางเพศ”
    ความจริงแล้วแอลกอฮอล์อาจทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศชั่วคราว

  • “ใช้ไวอากร้าแล้วจะต้านฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ได้”
    ไม่จริง ยาและแอลกอฮอล์ไม่ได้หักล้างฤทธิ์กัน แต่อาจส่งผลรุนแรงเมื่อใช้ร่วมกัน


สรุป

แม้ว่าไวอากร้าและแอลกอฮอล์จะสามารถใช้ร่วมกันได้ในบางกรณี แต่ การใช้ควบคู่กันต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในผู้ชายที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคหัวใจ การใช้ยาไวอากร้าควรเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร และหากจำเป็นต้องดื่ม ควรเลือกดื่มในปริมาณน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการรักษา


แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. Mayo Clinic – Sildenafil (Viagra) Interactions
    https://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/sildenafil-oral-route/precautions/drg-20066989

  2. Harvard Health Publishing – Alcohol and Erectile Dysfunction
    https://www.health.harvard.edu/mens-health/alcohol-and-sexual-performance

  3. NHS UK – Viagra: How it works and interactions
    https://www.nhs.uk/medicines/sildenafil-viagra/


kamagra

Scroll to Top